การกินดีอยู่ดีเป็นเรื่องที่ประชากรส่วนใหญ่ของโลกต่างต้องการและแสวงหา เมื่อมีโอกาส การขยายตัวของจำนวนประชากรและความเจริญทางด้านเศรษฐกิจ ได้นำมาซึ่งความต้องการบริโภคอาหารที่มากยิ่งขึ้น ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ จากการประมาณการขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food & Agriculture Organization: FAO) พบว่า ในปี 2050 จำนวนประชากรโลกจะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 9.1 พันล้านราย การพัฒนาเศรษฐกิจ การขยายตัวของเมือง และระดับฐานรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้น จะนำไปสู่ความต้องการบริโภคอาหารที่มากขึ้นจากปีปัจจุบันถึงร้อยละ 70 เมื่ออาหารเป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้ การเกษตรจึงยังคงเป็นภาคส่วนที่จำเป็นในระบบเศรษฐกิจใหม่
การเกิดขึ้นของเทคโนโลยีใหม่และความทันสมัยต่างๆ ไม่ได้ทำให้ภาคการเกษตรเลือนหายไปตามกาลเวลา ในทางตรงกันข้าม สินค้าผักผลไม้และอาหารสดต่างๆ กลับเป็นที่ต้องการมากยิ่งขึ้นในยุคของตลาดอีคอมเมิร์ซ จากผลการสำรวจของ Ali Research Center ศูนย์วิจัยที่ถูกจัดตั้งขึ้นโดยอาลีบาบา กรุ๊ป พบว่า จำนวนเกษตรกร ผู้ผลิต และผู้ประกอบการที่นำสินค้าเกษตรมาวางขายบนหน้าร้านออนไลน์บนแพลตฟอร์มของ อาลีบาบานั้น มีมากว่า 260,000 รายการ และมียอดขายคิดเป็นมูลค่าได้สูงถึงเกือบ 2 หมื่นล้านหยวนในปี 2012
ปรากฏการณ์การเกิดขึ้นของเกษตรกรรุ่นใหม่กำลังขยายตัวในสาธารณรัฐประชาชนจีน หนังสือพิมพ์ South China Morning Post ได้รายงานถึงประสบการณ์ของ ตู้ เชียนหลี่ (Du Qianli) ชายชาวจีนที่จบการศึกษาระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยเจิ้งโจว แต่ตัดสินใจเลือกย้ายกลับมาตั้งรกรากที่บ้านเกิดในหมู่บ้านที่ห่างไกลบริเวณ แถบเทือกเขาไท่หาง เพื่อประกอบอาชีพปลูกพืชเกษตรอินทรีย์ แตกต่างจากเกษตรกรรุ่นเก่าที่มักไม่สามารถเข้าถึงตลาด ตู้เปิดหน้าร้านออนไลน์เพื่อขายสินค้าออร์แกนิคด้วยตนเอง จนปัจจุบันมีผลกำไรต่อเดือนมากกว่า 100,000 หยวน ตู้ถือเป็นตัวอย่างหนึ่งของชาวจีนรุ่นใหม่ที่แสวงหาโอกาสการค้าขายสินค้า เกษตรที่ตนเองผลิตผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซ Ali Research ได้ประมาณการว่า ปัจจุบัน จำนวนเกษตรกรรุ่นใหม่ในสาธารณรัฐประชาชนจีนมีมากถึง 1 ล้านราย และมีทิศทางเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
ห่างออกไปมากกว่า 1 หมื่นกิโลเมตรจากสาธารณรัฐประชาชนจีน นักลงทุนในธุรกิจเงินร่วมลงทุน (Venture Capital) ที่สหรัฐอเมริกาต่างกำลังให้ความสนใจกับการลงทุนในภาคเทคโนโลยีการเกษตร อย่างเป็นจริงเป็นจัง จากผลสำรวจของ Dow Jones VentureSource พบว่า ปริมาณเงินลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีการเกษตรเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อย ละ 54 สู่ระดับมูลค่า 486 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปีที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ เดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล ได้รายงานถึงตัวอย่างกรณีความสำเร็จของโทมัส แม็คพีก (Thomas McPeek) ผู้ก่อตั้ง AGERPoint Inc. บริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีการเกษตร ผู้พัฒนาปรับใช้เครื่องสแกนเลเซอร์ในการยกระดับผลผลิตส้มฟลอริดา เทคโนโลยีดังกล่าวถูกใช้เพื่อวิเคราะห์ปริมาณแสงอาทิตย์ที่ต้นส้มได้รับ รวมทั้งระดับความสูงและความหนาแน่นของร่มไม้แต่ละต้น เพราะปัจจัยเหล่านี้จะสะท้อนให้เห็นว่าต้นส้มแต่ละต้นขาดน้ำ หรือเสี่ยงภัยต่อโรคพืชต่างๆ มากน้อยในระดับใด ผลการวิเคราะห์ด้วยเครื่องสแกนเลเซอร์นี้ถูกตีความออกมาให้เข้าใจง่าย เพื่อให้ชาวสวนทราบได้ว่าต้นส้มแต่ละต้นต้องการน้ำและปุ๋ยในปริมาณที่แตก ต่างกันเท่าไหร่