สัปดาห์ก่อน ผมได้มีโอกาสกล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “Service Industry in Thailand and Expectation from Japan” ให้กับนักธุรกิจด้านธุรกิจบริการของไทย กับญี่ปุ่น โดยความร่วมมือระหว่าง Jetro กับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ วันนี้จึงอยากแชร์ประเด็นน่ารู้ในธุรกิจกลุ่มนี้ให้ทราบกันครับ
1. รัฐบาลไทย มีนโยบายสนับสนุนกลุ่มธุรกิจบริการ เพื่อปรับสมดุลโครงสร้างการผลิต และการส่งออก อุตสาหกรรมนี้มีเสน่ห์มากครับ เพราะเรามักจะมองเห็นภาพไม่ค่อยชัด ไม่เหมือนมองไปที่ตัวสินค้า ทำให้บางครั้งอาจมองข้ามกลุ่มนี้ไป ธุรกิจกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มที่มีมูลค่าสูง ซึ่งเราต้องสร้างขีดความสามารถทั้งในส่วนที่เป็น “High Tech" และ "High Touch” Components ของธุรกิจบริการในแต่ละแบบ
2. บริการเป็นธุรกิจที่โตวันโตคืน โดยในระยะ 9 เดือนแรกของปี 58 ภาคบริการมีอัตราเติบโตถึง 15 % แต่ที่น่าตกใจกว่าคือ รายได้จากภาคบริการของไทย 73% กระจุกอยู่ในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว!! ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณเชิงนโยบายที่ไม่ค่อยเป็นผลดีนัก กล่าวคือ แม้ว่าไทยจะมีศักยภาพในกลุ่มธุรกิจนี้ แต่ยังมีธุรกิจอื่นที่มีมูลค่าสูงที่เราต้องพัฒนา และเราจะพึ่งธุรกิจท่องเที่ยวอย่างเดียวไม่ได้ครับ
3. เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ผมได้พบกับ Mr. Kenichi Ohmae ผู้เขียนหนังสือ “The Mind Of The Strategist: The Art of Japanese Business” ซึ่งได้ยกตัวอย่างประเทศญี่ปุ่นว่า ชาวญี่ปุ่นจะมองไปข้างหน้า และต้องมุ่งไปที่ Internationalization พร้อมๆกับ Internalization ท่านกล่าวว่าธุรกิจญี่ปุ่นและไทยควรจะเดินไปในแนวทางนี้ เพื่อสร้างความแนบแน่นในธุรกิจของประเทศทั้งสอง และตัวที่จะทำให้การต่อเชื่อมเกิดขึ้น ก็คือ "ธุรกิจภาคบริการ" นั่นเอง
4. ธุรกิจบริการ ถือเป็น ธุรกิจที่เป็นปัจจัยสนับสนุน (Enabler) อุตสาหกรรมการผลิต เช่น Packaging, Design, Logistic Service Providers ซึ่งที่ผ่านมา เป็น Missing Link ของอุตสาหกรรมไทย ดังนั้น การส่งเสริมธุรกิจบริการ ก็จะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศอีกทางหนึ่งด้วย
5. ผมกับประธานสำนักงาน JETRO กรุงเทพฯ (Mr. Hosumi Masayasu) และผู้อำนวยการอุตสาหกรรมด้านบริการของ JETRO (Mr. Hironobu Kitagawa) ได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกันหลายเรื่อง อาทิ
• การขยายธุรกิจบริการ เราต้องเชื่อมโยงด้วยดิจิทัลแพลตฟอร์ม
• นักธุรกิจญี่ปุ่นอยากได้ Partner ทางธุรกิจ เพราะมองว่า การมี Partner เป็นชาวไทย จะทำให้สามารถเข้าใจวัฒนธรรมได้ลึกซึ้งขึ้น นอกจากนี้ ความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละชาติจะมีลักษณะต่างกัน ทำให้สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ได้ ซึ่งผมได้ยกตัวอย่างไว้ให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น เช่น “Line Digital Content” เกม หรืออุตสาหกรรมโฆษณา Software ที่ญี่ปุ่นจะมีความคิดสร้างสรรค์ในแนวญี่ปุ่น ส่วนไทย ก็จะมีกลิ่นอายของความเป็นไทยแฝงอยู่
ธุรกิจบริการของญี่ปุ่นที่ประสบความสำเร็จมีมากมาย ที่เรารู้จักกันดี เช่น ร้านหนังสือ Kinokuniya ซึ่งผมก็เป็นลูกค้ามาอย่างยาวนาน ผมอยากเห็นธุรกิจของไทย ไปปักธงในต่างชาติให้มากกว่านี้ เราจะช่วยกันผลักดันทุกทางครับ
Credit : ท่านรมช.สุวิทย์
ข้อมูลข่าวสารจาก สมาคมผู้ส่งออกเอสเแมอีไทยThsi SMEs Exporter Association (TSEA)